หากว่าเอ่ยถึงวีซ่าต่างชาติแบบระยะยาว 1 ปี (Long Stay O-A) หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินมาก่อนไม่มากก็น้อย ซึ่งจะเรียกอีกชื่อว่าวีซ่าเกษียณอายุสำหรับประเทศไทย อันเป็นโอกาสอันดีสำหรับคนต่างชาติที่อยากใช้ชีวิตในบั้นปลายของประเทศไทย โดยประเทศไทยถือว่าเป็นจุดหมายของการเดินทางหรือการท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลก และแต่ละปีก็จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งใหลเข้ามาในประเทศไทยเป็นอันมาก และเป็นจำนวนหลายร้อยล้านคนเลยก็ว่าได้
เหตุผลที่ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง
เนื่องจากว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงมีวัฒนธรรมอันงดงาม สภาพอากาศดี อีกทั้งอาหารก็ยังรสชาติอร่อย นอกจากนี้ค่าครองชีพก็ไม่สูงอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ประเทศไทยติดอันดับน่าอยู่หรือที่ทำงานในโลกของคนต่างชาติ และทำให้คนต่างชาติที่เคยมาประเทศไทยอยากมาอีกครั้ง
คุณสมบัติผู้ที่ต้องการทำวีซ่าเกษียณอายุ เพื่อติดต่อไปที่ผู้รับต่อวีซ่าต่างชาติ
- อายุ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามในการเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ซึ่งในจุดนี้จะมีรายละเอียดหลายต่อหลายอย่างที่ต้องศึกษาเพิ่ม อาทิเช่น ไม่เคยต้องโทษจำคุก มีปัจจัยยังชีพเพียงพอตามที่กำหนด เป็นต้น
- ไม่มีประวัติอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศไทยและประเทศที่มีสัญชาติ รวมถึงประเทศที่ตนเองมีถิ่นพำนัก
- มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศที่ยื่นคำร้อง
- ไม่เป็นโรคต้องห้ามตามกฎกระทรวง ไม่ว่าจะเป็นโรคเรื้อน วัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้าง โรคยาเสพติดให้โทษ ซิฟิลิสระยะที่สาม เป็นต้น
- ไม่อนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย
สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับวีซ่าเกษียณอายุในประเทศไทย
เนื่องจากว่าวีซ่าเกษียณอายุในประเทศไทยเป็นวีซ่าได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องสำหรับ Non-Immigrant OA-Long Stay Visa โดยผู้ที่ครอบครองวีซ่านี้จะสามารถอาศัยในราชอาณาจักรไทยได้ 1 ปี และวีซ่าชนิดนี้จะมีผลบังคับใช้ครั้งเดียวหรือหลายครั้งก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้วีซ่ายังต้องได้รับการเปลี่ยนทุกปี นอกจากนี้ยังสามารถรับการทำใหม่ภายในประเทศไทย และคนที่ยื่นขอจำเป็นต้องเป็นคนที่เกษียณอายุแล้วเท่านั้น สามารถติดต่อได้ที่ผู้รับต่อวีซ่าต่างชาติ
อย่างไรก็ดีการเตรียมเอกสารจะต้องมีหนังสือเดินทางที่มีอายุใช้ได้ไม่น้อยกว่า 18 เดือน นอกจากนี้อาจยังต้องมีพร้อมรูปถ่ายและแบบฟอร์มส่วนตัวจำนวน 3 ชุด ขอรับการตรวจลงตรา นอกจากนี้ยังจะต้องมีหลักฐานการเงิน เช่นสำเนาบัญชีเงินฝาก ซึ่งจำนวนเงินเทียบเป็นเงินไทยไม่น้อยกว่า 800,000 บาทอีกด้วย หรือมีหนังสือรับรองรายได้หรือเงินบำนาญฉบับจริง เดือนละไม่น้อยกว่า 65,000 บาทอีกด้วย หรือมีบัญชีเงินฝากและรายได้รวมไปถึงเงินบำนาญต่อเดือน คิดทั้งหมด 12 เดือนไม่น้อยกว่า 800,000 บาทอีกด้วย